เช็คให้ชัวร์ก่อนเทรดเจาะลึกฉบับอินไซด์เดอร์กับ AvaTrade ชื่อนี้ดีจริงไหม?

แบรนด์โบรกเกอร์ระดับโลกอย่าง AvaTrade อาจจะไม่ค่อยมีโปรดีๆ มาดึงดูดนักลงทุนบ่อยนัก แต่ก็ต้องบอกว่าทั้งเครดิตและความน่าเชื่อถือนั้นอยู่อันดับท็อปๆ เลยทีเดียว ดังนั้นค่อนข้างมั่นใจได้ว่า AvaTrade น่าจะมีบริการและฟังก์ชั่นที่ตอบโจทย์ซึ่งมาพร้อมกับความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือระดับสูงอีกด้วย จากการดำเนินการด้านการเงินมาเป็นหลักสิบปี ทำให้ AvaTrade มีทั้งประสบการณ์และเชี่ยวชาญในการให้บริการ เพื่อเปิดโอกาสใหม่ให้กับการเทรดเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพที่สุด

avatrade

ความเป็นมาและความน่าเชื่อถือของ AvaTrade 

ตัวบริษัทก่อตั้งเมื่อปี 2006 มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ประเทศไอร์แลนด์ และมีออฟฟิศอยู่กว่า 15 ประเทศทั่วโลก โดย AvaTrade นั้นมีความเชี่ยวชาญในการให้บริการด้านการเทรดในตลาดเงิน ตลาดพันธบัตร Bitcoin หุ้นและ Exchange Traded Funds ซึ่งมีการบริการทางด้านตราสารมากกว่า 1,250 รายการเลยทีเดียว ปัจจุบันมีผู้ใช้บัญชีกว่า 300,000 คนทั่วโลก และมีการดำเนินธุรกรรมในด้านการซื้อขายมากกว่า 3 ล้านรายการต่อเดือน นอกจากประสบการณ์อันยาวนานแล้ว AvaTrade ยังได้รับรางวัลที่การันตีความยอดเยี่ยมของการบริการอีกด้วย อาทิเช่น

  • ในปี 2014 – 2020 ได้รับรางวัลหลากรายรางวัลด้วยกันจาก The European โดยคว้าทั้งตำแหน่ง 1 Broker, Best Forex Broker, Best Bitcoin CFD Trading Provider of the year, Best Affiliation Programme
  • ปี 2019 ได้รับรางวัล Best Forex Brokerจาก Daytrading
  • ปี 2019 ได้รับรางวัล Most Innovative CFD Broker, UKจาก International Business Magazine
  • ปี 2019 ได้รับรางวัล The Best Forex Broker, Portugalจาก Rankia
  • ปี 2018 ได้รับรางวัล Top 10 Brokers, China จากWikiFX
  • ปี 2017 – 2018 ได้รับรางวัล Best Affiliate Programme และ Best Trading Experienceจาก com

แพลตฟอร์มของ AvaTrade สำหรับการเทรด 

จากประสบการณ์ที่สั่งสมในวงการเทรดดิ้งมาอย่างยาวนานนั้นทำให้ AvaTrade ได้พัฒนาและปรับปรุงระบบและแพลตฟอร์มให้ดีขึ้นอย่างสม่ำเสมอ โดยในปัจจุบันตัวแพลตฟอร์มที่ทำออกมารองรับการบริการของลูกค้านั้นถือว่ามีให้เลือกเยอะพอควร

  • ความง่ายของการใช้แพลตฟอร์มหากใครเข้าที่เว็บหลักซึ่งเป็น com การเลือกเป็นภาษาไทยอาจจะทำไม่ได้ ดังนั้นหากไม่ถนัดภาษาอังกฤษจะต้องเข้าไปที่ https://www.avatradethai.com/ แทน แล้วอย่าลืมปิด Ad blocker ด้วย ไม่เช่นนั้นระบบจะไม่สามารถดำเนินการสมัครให้ได้ หน้าจอของเว็บเทรดนั้นถือว่าใช้งานได้ง่ายเลยทีเดียว สามารถกรอกข้อมูลเบื้องต้นในการสมัครได้ง่ายพอควร ส่วนตัวแพลตฟอร์มก็สามารถเลือกได้ ซึ่งจะไปอธิบายในหัวข้อถัดไป ระบบรองรับการใช้งานบน desktop และมือถือซึ่งทาง Avatrade ก็ออกแบบแพลตฟอร์มโดยจะมีแอพ AvaTradeGO app มาให้ใช้อีกด้วย
  • รองรับการใช้ภาษาไทยอย่างที่แจ้งไว้ด้านบน หากเข้าเว็บหลักหรือเว็บ Global จะเปลี่ยนเป็นภาษาไทยไม่ได้ ดังนั้นต้องเข้า avatradethai เท่านั้น การใช้ภาษาไทยบนหน้าเว็บก็ถือว่าทำได้ดี อ่านเข้าใจได้ง่าย
  • หลากหลายแพลตฟอร์มในการเทรด ตัวแพลตฟอร์มของทาง AvaTrade นั้นทำออกมาทั้ง MT4 และ MT5 ซึ่งรองรับหลายระบบการปฏิบัติการและหลายประเภทอุปกรณ์ โดยมีรายละเอียดดังนี้
  • WebTrader เป็นการทำงานผ่านหน้าเว็บไซต์ ตัวระบบมีอินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่ายเพราะออกแบบไว้ค่อนข้าง User Friendly ถึงแม้เพิ่งเริ่มต้นใช้งานก็สามารถทำความเข้าใจได้ไม่ยาก โดยหากอยากทำความเข้าใจแบบเบื้องต้น ก็สามารถดูเดโมระบบได้จากหน้าเว็บไซต์เลย
  • MetaTrader4 แพลตฟอร์มยอดฮิตสำหรับนักเทรดหลายท่าน ซึ่งไม่ต้องบอกสรรพคุณกันมาก เรียกได้ว่าเป็นแพลตฟอร์มทรงพลังสำหรับนักเทรดเลยก็ว่าได้ โดยมีข้อดีอย่างเช่น Expert Advisor ไว้ใช้ในการซื้อขายแบบอัลกอริทึมรองรับระบบปฏิบัติการทั้งมือถืออย่าง iOS และ Android รวมไปถึงการใช้งานหน้าเว็บ และบนคอมพ์อย่าง Windows ด้วย
  • MetaTrader5มาพร้อมด้วยความล้ำสมัยของ MetaQuote ซึ่งมีฟีเจอร์หลายอย่างเพิ่มมากขึ้น เช่น จำนวนอินดิเคเตอร์ที่เพิ่มขึ้น ตราสารที่มากขึ้น รองรับระบบปฏิบัติการทั้งมือถืออย่าง iOS และ Android รวมไปถึงการใช้งานหน้าเว็บ และบนคอมพ์อย่าง Windows ด้วย
  • การใช้งานผ่านมือถือตัว AvaTrade ได้พัฒนาแอพอย่าง AvaTradeGO ออกมาให้เหล่านักเทรดได้ใช้งานกันง่ายมากขึ้น โดยอัดแน่นไปด้วยข้อมูลทั้งฟีดแบบเรียลไทม์ต่างๆ ที่สำคัญมีหน้าจอและฟังก์ชั่นที่ใช้งานได้ง่ายแค่จิ้มปลายนิ้ว ระบบรองรับทั้ง Android และ iOS
  • การเทรดผ่าน Macในหน้าเว็บไซต์จะมีการแยก Mac ออกมา แต่อย่างไรก็ตามคนใช้ Mac ก็สามารถเทรดได้โดยใช้แพลตฟอร์มของ MT4 และไม่จำเป็นต้องดาวน์โหลดแต่อย่างใดเพราะใช้ได้กับทุกบราวเซอร์เลยก็ว่าได้ 

ใบอนุญาตและการรับรองจากสถาบันที่เชื่อถือได้

ทาง AvaTrade นั้นนอกจากจะก่อตั้งมายาวนานแล้ว ยังได้รับการอนุญาตจากหลากหลายสถาบันทั่วโลกเลยทีเดียว โดยมีทั้งยุโรป ญี่ปุ่น แอฟริกาใต้ ออสเตรเลีย หมู่เกาะบริติชเวอร์จิ้น อาบูดาบี ซึ่งถือว่าได้ใบอนุญาตจาก 6 หน่วยงานใน 5 ทวีป นอกจากนี้ AvaTrade ยังแยกเงินลงทุนและคุ้มครองเงินให้แก่ลูกค้าอีกด้วย ดังนั้นมั่นใจได้ว่าการเทรดของคุณจะมาพร้อมกับความปลอดภัยในด้านกฏหมายอย่างแน่นอน

  • ได้รับการอนุญาตจาก The Central Bank of Ireland, (Reference No. : C53877) Avatrade EU Limited
  • ได้รับการอนุญาตจาก Financial Services Commission ของญี่ปุ่น – Financial Futures Association of Japan (เลขที่ใบอนุญาต: 1574)
  • ได้รับการอนุญาตจาก ASIC ของออสเตรเลีย – Australian Securities & Investments Commission (ใบอนุญาตเลขที่: 406684)

คุณสมบัติที่น่าสนใจของการเปิดบัญชีกับ AvaTrade 

ด้วยความที่ AvaTrade นั้นมีแหล่งข้อมูลและการวิเคราะห์ตลาดให้เราศึกษาอย่างครบครัน โดยมีตั้งแต่การสอนเทรดสำหรับมือใหม่ E-book ให้ดาวน์โหลด แถมบวกด้วยความปลอดภัยและการบริการที่ยอดเยี่ยม มั่นใจได้เลยว่าหากศึกษาจนจบ ท่านก็สามารถเปิดบัญชีและเริ่มเทรดกันได้เลยทันที

  • การทดลองใช้งานบัญชีเดโมตัว AvaTrade มีบัญชีเดโมให้ทดลองสมัครใช้ได้อย่างง่ายๆ โดยเปิดมาหน้าแรกก็เจอเลย สามารถสมัครผ่านลิงค์ของ Social อย่าง Facebook และบัญชี Google หรือจะสะดวกกรอกข้อมูลขั้นพื้นฐานก็ได้เหมือนกัน
  • การเปิดบัญชีในด้านการเปิดบัญชีจริงนั้นก็กรอกข้อมูลพื้นฐานทั่วไป โดยอาจจะมีการกรอกข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อยืนยันตัวตนในส่วนของรายได้ และข้อมูลเชิงลึกส่วนตัวด้วยเช่นกัน
  • ตัวแปรในการเทรดที่สำคัญในส่วนของบริการนั้นออพชั่นสำคัญๆ อย่าง คู่สกุลเงินของ AvaTrade มีให้ใช้มากกว่า 50 คู่ มี Spread แบบลอยตัว หรือแบบคงที่ เริ่มต้นที่ 8 pip ให้ Leverage สูงถึง 400:1 สำหรับคู่สกุลเงินต่างๆ
  • การฝากถอนเงินตัวระบบนั้นสามารถทำธุรกรรมการฝากถอนได้ง่าย โดยสามารถใช้แบงค์ไทยทาง Internet Banking ได้ และไม่มีการคิดค่าธรรมเนียมอีกด้วย นอกจากนี้ยังฝากเงินทางบัตรเครดิต e-Payments เช่น Skrill, WebMoney และ Neteller เงินจะเข้าบัญชีของคุณภายใน 24 ชั่วโมง การฝาก ขั้นต่ำคือ 100 USD $

ประเภทบัญชีสำหรับการเทรด 

การออกแบบบัญชีสำหรับการเทรด Forex ของ AvaTrade นั้นไม่ได้ซับซ้อนและไม่ได้มีให้เลือกมากแต่อย่างใด เพราะระบบนี้เน้นที่แพลตฟอร์มและความน่าเชื่อถือเป็นหลัก หากเราเปิดบัญชีเทรดจะเห็นว่าจะมีแค่บัญชีเทรดจริง หรือสามารถสลับไปใช้บัญชีแบบเดโมเท่านั้น แต่หากมองในภาพรวมบัญชีของ AvaTrade จะแบ่งออกเป็นประเภทใหญ่ๆ ดังต่อไปนี้

  • บัญชีธรรมดา (Retail Account)เป็นบัญชีทั่วไปที่นักเทรดทุกคนเข้าถึงได้ เหมาะกับนักเทรดมือใหม่ และนักเทรดมือโปรที่สั่งสมประสบการณ์การซื้อขายในระดับหนึ่งแล้ว โดยมีจุดที่น่าสนใจอย่างเช่น ทางระบบเสนอการป้องกันยอดคงเหลือติดลบให้ด้วยสำหรับคนที่สมัครบัญชีนี้ โดยการฝากขั้นต่ำสำหรับบัญชีธรรมดาคือ 100 $ มี Leverage สูงสุดถึง 1: 400 มี Spread คงที่เริ่มต้น 9 pip ไม่มีการคิดค่าคอมมิชชั่น
  • บัญชีโปร (Professional Account)อย่างที่บอกว่า AvaTrade นั้นเป็นโบรกเกอร์ระดับโลก การปฏิบัติตามเงื่อนไขของภาคการเงินจึงมีการจำแนกบัญชีโปรเกิดขึ้น โดยหลักของบัญชีนี้เป็นการปฏิบัติตามข้อกำหนดตามกฎข้อบังคับของสหภาพยุโรป โดยบัญชีโปรนั้นมีค่า Spread ที่คงที่และไม่มีค่าคอมมิชชั่น แต่ผู้สมัครจะต้องผ่านเงื่อนไขตามที่กำหนดเช่น การมีกิจกรรมการซื้อขายหรือการเทรดที่เพียงพอในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา โดยคิดเป็นความถี่เฉลี่ย 10 ต่อไตรมาสในช่วงสี่ไตรมาสที่ผ่านมา ต้องมีความรู้หรือเคยทำงานในด้านการเทรดและการเงินมาไม่น้อยกว่า 1 ปี และที่สำคัญต้องมีพอร์ตที่มีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 500,000 Euro ซึ่งอาจจะเป็นพอร์ตหุ้น หรือพอร์ตที่เกี่ยวกับการซื้อขายในตลาดที่เกี่ยวข้อง
  • บัญชีซื้อขายอิสลามเป็นบัญชีที่ทำมาเพื่อรองรับลูกค้าเฉพาะกลุ่มตามชื่อบัญชีเลย โดยเปิดตลอด 24 ชั่วโมง ไม่ต้องกังวลเรื่องกฏการเทรดแบบมุสลิม เพราะบัญชี้ถูกออกแบบมารองรับเงื่อนไขการเทรดเหล่านั้นครบทุกกระบวนการ

การเทรดอย่างมั่นใจและมีโบรกเกอร์ที่ปฏิบัติตามกฎอย่างเคร่งครัดก็เหมือนกับการฝากเงินไว้กับธนาคารหรือสถาบันการเงินที่น่าเชื่อถือ ถึงแม้จะไม่มีโปรหรือโบนัสมากนัก แต่การเทรดแบบปลอดภัยกับโบรกเกอร์ที่ไว้วางใจได้ก็สามารถสร้างความสบายใจและทำกำไรได้อย่างแน่นอน