อินดิเคเตอร์ (Forex Indicator) สำหรับการเทรดฟอเร็กซ์ที่ควรรู้จัก

0
2834

การลงทุนในตลาดฟอเร็กซ์นอกจากจะต้องวินัยในการลงทุนแล้ว ยังจำเป็นต้องมีเครื่องมือที่สามารถช่วยให้เทรดเดอร์อย่างเราๆสามารถทำกำไรได้ง่ายขึ้น คล้ายกับมีเครื่องมือคอยบอกหรือนำทางเรา เราเรียกเครื่องมือเหล่านั้นว่า “อินดิเครเตอร์” (Indicator) ซึ่งในความเป็นจริงแล้วอินดิเคเตอร์มีด้วยกันหลายชนิด บ้างก็มีความสามารถคล้ายคลึงกัน บ้างก็ให้การวิเคราะห์ต่างมุมมองกัน แล้วเราจะทราบได้อย่างไรว่า อินดิเคเตอร์ตัวไหนมีประสิทธิภาพดีซึ่งเราก็ตอบไม่ได้ แต่เราจะแนะนำอินดิเครเตอร์ที่เป็นที่นิยมใช้ในการเทรดกันมากในตลาดฟอเร็กซ์

Moving Average

เป็นเครื่องมือที่ง่ายที่สุดและคนนิยมใช้กันมากที่สุด เป็นการนำหลักสถิติมาใช้ และยังใช้สำหรับการวิเคราะห์เทรนหรือแนวโน้มตลาด จะสามารถช่วยกลั่นกรองสัญญาณหลอกในขณะที่ตลาดมีความผันผวนระยะสั้น  นิยมแสดงค่าเป็นเส้น โดยนำมาพล็อตต่อๆกัน โดยการนำค่าเฉลี่ยของช่วงเวลาที่กำหนดไว้ ซึ่ง Moving Average นั้นมีหลายประเภทและต่างวัตถุประสงค์ของการตีความ

Fibonacci  Retracement

เป็นอินดิเครเตอร์ที่ได้รับความนิยมใช้ ทฤษฏีของเครื่องมือนี้ก็คือ หลังจากการเคลื่อนไหวของราคาอย่างมีนัยสำคัญ ระดับแนวรับ-แนวต้าน ที่ตามมาจะเกิดขึ้นใกล้เคียงกับระดับที่คำนวณได้จากอัตราส่วน ฟีโบนักซิ ด้วยเหตุนี้ ฟีโบนักซิจึงเป็นเครื่องมือที่ทำนายการเคลื่อนไหวของราคาก่อนที่มันจะเกิดขึ้นจริง ซึ่งในขณะที่อินดิเครเตอร์ที่ใช้ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Average) ที่จะแสดงแนวโน้มเมื่อมีการเคลื่อนไหวของราคาแล้วเท่านั้น เราจึงใช้ฟีโบนักซิเป็นเครื่องมือมี่พยากรณ์ล่วงหน้า ลำดับฟีโบนักซิเป็นลำดับตัวเลขที่รู้จักกันมาแต่โบราณ มีค่าเริ่มต้นด้วย 0 และ 1 หมายเลขใดๆที่ตามมาคือผลวมของตัวเลขสองตัวก่อนหน้าในลำดับ

Moving Average Convergence Divergence

แม็ค-ดี หรือ เอ็มเอซีดี (MACD) เป็นอินดิเคเตอร์ที่ทำการวิเคราะห์การแกว่งตัวของกราฟราคา ทำให้เราเห็นทิศทางของข้อมูลแนวโน้มราคา (Trend) และแรงส่งราคา (Momentum) ได้ในเวลาเดียวกัน เป็นสัญญาณบอกว่าจะซื้อ หรือ ขาย .

Bollinger Bands

เป็นเครื่องมือที่ช่วยวัดความผันผวนของตลาด เช่น ระดับความแปรปรวนของราคาซื้อ-ขาย จะประกอบไปด้วย 3 เส้น MA คือ  เส้นกลางจะเป็นที่ระบุทิศทางของเทรนด์ ส่วนเล่นบนและเส้นล่างจะถูกเลื่อนโดยค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานสองค่าด้านบนและด้านล่างแถบกลาง ราคาจะอยู่ระหว่างเส้นสองเส้น หากราคาผันผวนจะเกิดกราฟขึ้นลงรอบเส้นกลางอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสามารถพุ่งทะลุระดับเหนือเส้นนอกได้ แต่ในเกิดขึ้นในระยะเวลาสั้นๆ ช่วงระยะเวลาที่เส้น Bollinger เข้าใกล้กันมากขึ้นแสดงว่าตลาดมีความผันผวนต่ำ ในทางกลับกันหากมีช่วงที่กว้างขึ้น แสดงว่าตลาดมีความผันผวนสูง