ในระยะนี้นักลงทุนต่างมีความกังวลเป็นอย่างมาก ในเรื่องของอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งทะยานสูงขึ้นอย่างน่าใจหาย สำหรับอัตราเงินเฟ้อของผู้บริโภคได้รับกำลังส่งจากราคาพลังงานที่สูงขึ้น โดยเพิ่มขึ้นมากถึง 25% เลยทีเดียว เมื่อเทียบกับปี 2020 ในส่วนของอัตราเงินเฟ้อผู้ผลิตก็ได้วิเคราะห์ไว้ โดยค่า PPI เมษาเพิ่มขึ้นถึง 6.2%
โดยนับเป็นขีดจำกัดการเพิ่มขึ้นที่มากที่สุดเมื่อเทียบกับค่าการขึ้นค่า PPI หลายปี ในช่วงฤดูการทำกำไรของบริษัทต่าง ๆ มักจะออกมาให้ข้อมูลวิเคราะห์เกี่ยวกับสิ่งที่ทำให้เกิดการกระทบรายได้ของบริษัทนั้น ๆ ในช่วงระยะไตรมาสที่ 1 แต่จากปัญหาอัตราเงินเฟ้อ ทำให้หลาย ๆ บริษัทใน S&P 500 ได้ออกมาพูดถึงเกี่ยวกับกระแสภาวะเงินเฟ้อ ระหว่างการประชุมผลประกอบการในไตรมาสที่ 1 เสียมาก ซึ่งการประชุมในครั้งนี้มีบริษัทจำนวน 175 แห่ง ได้พูดถึงเงินเฟ้อในระหว่างการประชุมซึ่งเป็นการวิเคราะห์ผลในช่วงไตรมาสแรก และมีบริษัทที่อ้างถึงการเกิดภาวะอัตราเงินเฟ้อในปี 2010 และอัตราเงินเฟ้อที่มากล้นนี้เคยปรากฏในไตรมาสที่ 2 ของปี 2018 ในส่วนของภาคอุตสาหกรรมมีบริษัทที่เรียกร้องผลประกอบการในไตรมาสที่ 1 ประจำปี 2021 แบ่งออกเป็นอัตราเงินเฟ้อที่เกิดจากความต้องการของผู้บริโภค 25 ทางด้านการเงิน 22 สินค้าอุปโภคบริโภค 21 และวัสดุ 21
โดยกลุ่ม Consumer Staples คิดเป็น 84% และกลุ่มบริษัทที่ผลิตวัสดุ 75% พบว่านับเป็นเปอร์เซ็นต์สูงสุดในการได้รับผลกระทบจากอัตราเงินเฟ้อในช่วงนี้ จากการรวบรวมข้อมูลผมผลประกอบการในไตรมาสที่ 1 โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 15 มีนาคมจนกระทั่งถึงวันที่ 14 พฤษภาคม