จากการที่ที่อยู่อาศัยเริ่มลดลง 9.5% ในเดือนเมษายน ส่งผลต่อขาดแคลนวัสดุส่งผลกระทบต่อกิจกรรมในการสร้างบ้านและอื่น ๆ มากมาย ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัย NAHB / Wells Fargo ทรงตัว ในระดับ 83 เดือนพฤษภาคม แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่องในการก่อสร้างที่อยู่อาศัย สินค้าคงเหลือที่ต่ำยังคงระงับยอดขายบ้านที่มีอยู่ ซึ่งลดลง 2.7% ในเดือนเมษายน ดัชนีเศรษฐกิจชั้นนำ (LEI) พุ่งขึ้น 1.6% ในเดือนเมษายนสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยคาดการณ์ว่า Q2 ยังคงแข็งแกร่งถึงแม้จะมีลมแรงก็ตาม
ในขณะที่เศรษฐกิจโลกยังคงอยู่ในเส้นทางการฟื้นตัวแต่ก็ไม่ง่ายนัก เพราะข่าวต่างประเทศในสัปดาห์นี้ก็มีหลากหลาย ทั้งข่าวยอดค้าปลีกและผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของจีน ในเดือนเมษายน ที่ชะลอตัวเกินกว่าที่คาดการณ์ไว้ และ GDP ของญี่ปุ่นลดลงในไตรมาสที่ 1 ในทางตรงกันข้าม PMI บริการของยูโรโซน เพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2018 และดัชนี PMI เดือนพฤษภาคมของสหราชอาณาจักร แสดงให้เห็นถึงการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง รายงานการประชุม FOMC วันที่ 27-28 เมษายนได้รับความสนใจมากกว่าปกติ เพราะนักลงทุนต้องการทราบแผนการปรับจังหวะการซื้อสินทรัพย์ ยอดคงเหลือคงค้างอยู่ที่ 157 พันล้านดอลลาร์ ต่ำกว่ามูลค่าปี 2019 จนถึงไตรมาสแรกมาก นอกเหนือจากการสนับสนุนทางการเงินแล้ว การไม่สามารถใช้จ่ายกับบริการจำนวนมากได้ยังคงมีแนวโน้ม ที่จะทำให้เงินสดเพิ่มขึ้นเพื่อใช้ในการชำระหนี้คงค้าง ต้องเร่งมีการตรวจสอบว่าความผันผวนของการเข้ารหัสล่าสุดมีขนาดใหญ่เพียงใด สำหรับครัวเรือนในสหรัฐฯ
ในช่วงปีที่ผ่านมา ตลาดที่อยู่อาศัยกลายเป็นเรื่องที่ร้อนแรง อัตราการจำนองที่ต่ำและความต้องการพื้นที่ในครัวเรือนที่เพิ่มขึ้น ได้ผลักดันยอดขายบ้านสูงมากขึ้น ความเชื่อมั่นของผู้สร้างและการก่อสร้างที่อยู่อาศัย ไต่ไปสู่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่การเติบโตของที่อยู่อาศัยในช่วงต้นทศวรรษ 2000 แต่อย่างไรก็ตามกิจกรรมในตลาดที่อยู่อาศัยแลดูเหมือนจะสวนทางกับข้อจำกัดด้านอุปทานบางประการ