ประธานาธิบดี Tayyip Erdogan กล่าวว่าธนาคารกลางของตุรกี ได้เพิ่มตกลงกับจีนเพื่อเพิ่มวงเงินแลกเปลี่ยนสกุลเงินที่มีอยู่ให้กลายเป็น 6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ จากเดิม 2.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อเพิ่มทุนสำรองต่างประเทศ ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของตุรกีลดลง 75% ในปี 2020 ส่งผลทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับวิกฤต ดุลการชำระเงินที่อาจเกิดขึ้น โดยการประกาศเซอร์ไพรส์นี้เกิดขึ้นในขณะที่ประธานาธิบดีตุรกี เตรียมตัวเดินทางไปบรัสเซลส์เพื่อเข้าร่วมการประชุมกับ NATO
ตุรกีได้ทำข้อตกลงที่สำคัญมากกับจีน กิจกรรมในลักษณะนี้มีความสำคัญมากและเป็นหนึ่งในคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดอีกด้วย
โดยก่อนหน้านี้ได้มีการสร้างข้อตกลงแลกเปลี่ยน 2.4 พันล้านเหรียญสหรัฐ ต่อมาได้ทำข้อตกลงใหม่มูลค่า 3.6 พันล้านเหรียญสหรัฐ ส่งผลทำให้ยอดรวมกลายเป็น 6 พันล้านเหรียญสหรัฐ โดยเงินสำรองเงินตราต่างประเทศของธนาคารกลางไม่ดีตามนโยบายการขายของธนาคารของรัฐในปี 2019-2020 เท่าไหร่นัก มีการวางเงินเดิมพันที่ 128 พันล้านดอลลาร์เพื่อสนับสนุนลีราตุรกีที่กำลังประสบปัญหา โดยยังไม่รวมกับธนาคารของรัฐ เงินสำรอง FX ของธนาคารกลางนั้นกลับติดลบอย่างมาก ในปี 2020 ตุรกีได้ยื่นอุทธรณ์ต่อพันธมิตรต่างประเทศเพื่อเดินหน้าขอเงินทุนใหม่ โดยการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะเริ่มต้นขึ้นในเดือนกันยายน ซึ่งจะเป็นการช่วยบรรเทาแรงกดดันทางเศรษฐกิจได้ในระยะเวลาอันสั้น ถึงแม้ว่าทางธนาคารจะแตะระดับต่ำสุดใหม่เมื่อต้นเดือนนี้ ย้อนไปในเดือนมิถุนายน 2021 ธนาคารกลางกล่าวว่าได้ใช้วงเงินสินเชื่อสำหรับหยวนจีนเป็นครั้งแรก ภายใต้ข้อตกลงแลกเปลี่ยนก่อนหน้านี้กับธนาคารประชาชนแห่งประเทศจีน
มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่ากำลังสำรองของตุรกีกำลังตกลง และกล่าวว่าข้อตกลงใหม่กับจีนอาจขัดขวางเกมนี้ของพวกเขาไปได้
