ประธานาธิบดีแห่งฝรั่งเศส นายเอ็มมานูเอล มาครง ออกมากล่าวถึงความทะเยอทะยานและแรงผลักดันอย่างแรงกล้าที่จะทำให้ยุโรปเดินหน้าสร้างบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยี มากถึง 10 แห่ง คิดเป็นมูลค่าในการลงทุนอยู่ที่ 100 พันล้านยูโร (121.26 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งเป็นราคาของบริษัทแต่ละแห่ง เพื่อเป็นคู่แข่งกับบริษัทสหรัฐที่ครองบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีส่วนนี้
อีกทั้งยังเป็นเป้าหมายส่วนหนึ่งของโครงการริเริ่มที่จะเกิดขึ้นทั่วยุโรป เพราะทางฝรั่งเศสกำลังพยายามอย่างยิ่งในการปรับปรุงเงินทุนสำหรับบริษัทสตาร์ทอัพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงระยะหลัง ๆ ของการเติบโต เพื่อขับเคลื่อนพาบริษัทขนาดเล็กไปสู่การลงแข่งขันที่ใหญ่ขึ้น ซึ่งบริษัทเหล่านี้จะสามารถดึงดูดนักลงทุนและพนักงานที่มีความสามารถระดับสูงได้
ประธานาธิบดีแห่งฝรั่งเศส นายเอ็มมานูเอล มาครง ได้ผลักดันให้ฝรั่งเศสกลายเป็นประเทศเริ่มต้น ตั้งแต่เขาเข้ามามีอำนาจในปี 2017 ทำให้ประเทศแห่งนี้น่าดึงดูดยิ่งขึ้น สำหรับนักลงทุนต่างชาติโดยเฉพาะในเรื่องของการปฏิรูปแรงงานอันเป็นผลงานที่โดดเด่นของเขา
แต่อย่างไรก็ตามความพยายามของฝรั่งเศสในการสร้างบริษัทที่มีมูลค่าอย่างน้อย 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ยังคงไม่ราบรื่นเพราะมีสหรัฐฯ ขวางอยู่ ประธานาธิบดีแห่งฝรั่งเศส นายเอ็มมานูเอล มาครง กล่าวเมื่อปี 2020 ว่าเขาคาดว่าฝรั่งเศสจะมี การสร้างบริษัท 25 แห่งภายในปี 2030 อีกทั้งยังเป็นแผนล่าสุดที่จะช่วยบริษัทสตาร์ทอัพในยุโรป รวมถึงการเพิ่มแผนการจัดหาเงินทุนผ่านการเงินทั่วทั้งสหภาพยุโรป ตลอดจนการสนับสนุนกองทุนร่วมลงทุนเพื่อหาเงินมาลงทุนมากขึ้นอีกด้วย ซึ่งมีการลงนามโดยธุรกิจประมาณ 200 แห่ง รวมถึงสมาคมสตาร์ทอัพและบริษัทแห่งอื่น ๆ
และยังมีการแนะนำการปรับปรุงกฎระเบียบในยุโรป ตลอดจนการสร้างแผนตัวเลือกที่ลงแข่งขันในตลาดได้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความคิดริเริ่มในการขยายบริษัทเทคโนโลยีในยุโรปนั่นเอง
