ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินหลัก ธนาคารกลางสหรัฐได้มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรก หลังจากเกิดโรคระบาดขึ้นมา โดยพบสถานการณ์ด้านสุขภาพที่ดีขึ้นหลังจากพบปัญหาที่ยาวนานเต็มไปด้วยวิกฤตซึ่งส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจอย่างรุนแรง
ดัชนีค่าเงินดอลลาร์เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับ 6 สกุลเงินหลัก เพิ่มขึ้น 0.63% ที่ 91.103 นับเป็นจำนวนสูงที่สุดตั้งแต่ 6 พ.ค. เป็นต้นมา ส่วนใหญ่มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างน้อย 2 ใน 4 จุดทางเจ้าหน้าที่ให้คำมั่นที่จะรักษานโยบายไว้เพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของโลกอย่างต่อเนื่อง จากการคาดการณ์พบแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อที่จะเพิ่มขึ้นในปี 2021 ถึงแม้ว่าการขึ้นราคาจะยังคงออกมายืนยันว่าเป็นการขึ้นชั่วคราวเท่านั้น ทางด้านการเติบโตทางเศรษฐกิจโดยรวมคาดว่าจะแตะที่ 7% นอกจากนี้สิ่งที่น่าสนใจคือเฟดไม่ได้ออกมายอมรับว่าอัตราเงินเฟ้อกำลังเพิ่มสูงขึ้นเท่านั้น แต่ยังกล่าวอีกว่าค่าเงินของสหรัฐฯ กำลังมีโมเมนตัมอย่างมาก ค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงเกือบตลอดปี 2020 ได้มีการฟื้นตัวขึ้น 2021 แต่จากการฟื้นตัวหมดแรงในเดือนพฤษภาคม ทางด้านนักลงทุนมีความเชื่อมั่นว่าเฟดจะคงค้างอัตราดอกเบี้ยไว้ให้นานขึ้นเพื่อกระตุ้นสนับสนุนเศรษฐกิจ ถึงแม้ว่าเฟดจะไม่ได้เผยว่าการเปลี่ยนแปลงนโยบายจะใกล้เข้ามา แต่ถึงกระนั้นก็มีการให้การสนับสนุนมากขึ้นสำหรับค่าเงินดอลลาร์ ทางด้านค่าเงินที่อ่อนตัวมีการกลับตัวอย่างรวดเร็ว ค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์อ่อนค่าลง 0.98% ที่ 0.7049 ดอลลาร์สหรัฐฯ ทางด้านดอลลาร์ออสเตรเลีย มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น 0.95% ที่ 0.7612 ดอลลาร์
ค่าเงินปอนด์พบการแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับค่าเงินดอลลาร์ หลังจากพบข้อมูลอันแสดงให้เห็นว่าอัตราเงินเฟ้อของอังกฤษกำลังพุ่งขึ้นเหนือเป้าหมายที่ 2% ของธนาคารแห่งอังกฤษโดยไม่คาดคิด ส่งผลทำให้กำไรเหล่านั้นลดลงที่ 0.49%
