สหราชอาณาจักรและประเทศอื่น ๆ ร่างกฎหมายเพื่อควบคุมเนื้อหาออนไลน์ รวมถึงการล่วงละเมิดทางเชื้อชาติ ต้องหลีกเลี่ยงคำจำกัดความที่กว้างเกินไปและการพึ่งพาอัลกอริธึม ที่อาจทำให้เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นมากเกินไป เจ้าหน้าที่ขององค์การสหประชาชาติเตือน
ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา มีการใช้กฎหมายใหม่เกี่ยวกับโซเชียลมีเดียประมาณ 40 ฉบับทั่วโลก รวมถึงกฎหมายความปลอดภัยทางไซเบอร์ของเวียดนามปี 2019 ซึ่งผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าเคยใช้เพื่อลบโพสต์และจับกุมผู้ที่แสดงความคิดเห็นวิพากษ์วิจารณ์ แทบทุกประเทศที่ออกกฎหมายเกี่ยวกับเนื้อหาออนไลน์ ได้เสี่ยงต่อสิทธิมนุษยชน สิ่งนี้เกิดขึ้น 2 เพราะรัฐบาลตอบสนองต่อแรงกดดันของสาธารณชน โดยเร่งรีบด้วยวิธีแก้ปัญหาง่าย ๆ สำหรับปัญหาที่มีความซับซ้อน เนื่องจากรัฐบาลบางแห่งมองว่ากฎหมายนี้เป็นแนวทางในการจำกัดคำพูด และแม้กระทั่งปิดปากภาคประชาสังคมหรือนักวิจารณ์คนอื่น ๆ โลกออนไลน์กำลังสะท้อนสิ่งที่ผู้คนเผชิญในแต่ละวันแบบออฟไลน์ เพื่อป้องกันคำพูดเหยียดผิวผ่านอัลกอริธึม อย่างน้อยที่สุดจะต้องมีแนวทางที่กว้างไกลซึ่งจะบล็อกคำพูดในโลกออนไลน์ต่าง ๆ เดือนธันวาคมปี 2020 สหภาพยุโรป (EU) ได้เสนอกฎหมายบริการดิจิทัล ซึ่งกำหนดให้บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีต้องดำเนินการมากกว่านี้เพื่อจัดการกับเนื้อหาที่ผิดกฎหมาย เช่น คำพูดแสดงความเกลียดชังและเนื้อหาเกี่ยวกับการล่วงละเมิดทางเพศเด็ก
มาร์เซโล ดาเฮอร์ เจ้าหน้าที่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ กล่าวว่า การเลือกในกฎหมายดังกล่าว อาจส่งผลกระทบอย่างรุนแรง โดยอ้างถึงองค์ประกอบเชิงบวก รวมถึงข้อกำหนดด้านความโปร่งใส ซึ่งยังคงมีสัญญาณที่ขัดแย้งกันอยู่ รวมถึงความเสี่ยงที่จะมีความรับผิดชอบในวงกว้างสำหรับบริษัทต่าง ๆ สำหรับเนื้อหาที่ผู้ใช้สร้างขึ้น และจะมีการกำกับดูแลการพิจารณาคดีอย่างจำกัด