รัฐบาลที่ของกรีนแลนด์ได้ตัดสินใจที่จะระงับการสำรวจน้ำมันทั้งหมดนอกเกาะที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยเรียกสิ่งนี้ว่า ขั้นตอนตามธรรมชาติเพราะรัฐบาลอาร์กติกให้ความสำคัญกับวิกฤตสภาพภูมิอากาศอย่างจริงจัง ยังไม่มีการพบน้ำมันรอบ ๆ กรีนแลนด์ แต่เจ้าหน้าที่เห็นว่ามีแหล่งสำรองมากมายที่อาจช่วยให้ชาวกรีนแลนด์ ตระหนักถึงความฝันอันยาวนานในการได้รับอิสรภาพจากเดนมาร์ก โดยมีการตัดเงินอุดหนุนประจำปีจำนวน 3.4 พันล้านโครน (540 ล้านเหรียญสหรัฐ) ให้กับดินแดนของเดนมาร์ก
จากภาวะโลกร้อนสามารถทำให้ค้นพบแหล่งน้ำมันและแร่ธาตุที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งอาจเปลี่ยนโชคชะตาของดินแดนกึ่งอิสระที่มีประชากร 57,000 คนได้อย่างมาก ซึ่งอนาคตไม่ได้อยู่ที่น้ำมันแต่อนาคตเป็นของพลังงานหมุนเวียน รัฐบาลกรีนแลนด์กล่าวในแถลงการณ์ว่าต้องการร่วมรับผิดชอบในการต่อสู้กับวิกฤตสภาพภูมิอากาศโลก การสำรวจทางธรณีวิทยาของสหรัฐฯ ประมาณการว่าอาจมีน้ำมันที่ยังไม่ถูกค้นพบ 17.5 พันล้านบาร์เรล และก๊าซธรรมชาติ 148 ล้านล้านลูกบาศก์ฟุตนอกเกาะกรีนแลนด์ ถึงแม้ว่าพื้นที่ห่างไกลของเกาะและสภาพอากาศเลวร้ายจะมีการสำรวจอย่างจำกัด เมื่อรัฐบาลชุดปัจจุบันซึ่งนำโดยพรรค Inuit Ataqatigiit นับตั้งแต่การเลือกตั้งรัฐสภาเมื่อเดือนเมษายน ทางรัฐบาลก็เริ่มทำตามคำมั่นสัญญาในการเลือกตั้งทันทีและหยุดแผนการทำเหมืองยูเรเนียมในกรีนแลนด์ตอนใต้ กรีนแลนด์ยังคงมีใบอนุญาตการสำรวจไฮโดรคาร์บอนที่ใช้งานอยู่ 4 ฉบับ ซึ่งจำเป็นต้องคงรักษาไว้ตราบเท่าที่ผู้รับใบอนุญาตกำลังสำรวจอยู่ การตัดสินใจของรัฐบาลในการหยุดการสำรวจน้ำมันได้รับการต้อนรับจากกลุ่มสิ่งแวดล้อมกรีนพีซ ซึ่งเรียกการตัดสินใจนี้ว่ามีความยอดเยี่ยม
และใบอนุญาตที่เหลืออยู่มีศักยภาพจำกัดมาก เดนมาร์กตัดสินใจเกี่ยวกับนโยบายต่างประเทศ กลาโหมและความมั่นคง และสนับสนุนกรีนแลนด์ด้วยเงินช่วยเหลือรายปี ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 2 ใน 3 ของเศรษฐกิจของเกาะอาร์กติก