คณะบริหารของไบเดน มอบคำแนะนำเพื่อเตือนธุรกิจของสหรัฐฯ เกี่ยวกับความเสี่ยงต่อการดำเนินงานและกิจกรรมในฮ่องกง หลังจากมีการบังคับใช้กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติฉบับใหม่ของจีนเมื่อปี 2020 คำแนะนำจากกระทรวงการคลังของรัฐ กระทรวงพาณิชย์และความมั่นคงแห่งมาตุภูมิเตือนธุรกิจในฮ่องกงว่า ขณะนี้กำลังอยู่ภายใต้กฎหมายของอาณาเขต รวมถึงกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติ ซึ่งมีการจับกุมชาวต่างชาติ รวมถึงพลเมืองสหรัฐฯ 1 คน
ธุรกิจกำลังเผชิญหน้ากับความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการเฝ้าระวังทางอิเล็กทรอนิกส์โดยไม่มีหมายจับ และการมอบข้อมูลองค์กร โดยเสริมว่าบุคคลและธุรกิจควรตระหนักถึงผลที่อาจเกิดขึ้น จากการติดต่อกับบุคคลหรือหน่วยงานที่ถูกคว่ำบาตร และเตือนว่าพวกเขาอาจเผชิญหน้ากับการตอบโต้ของจีน สำหรับการปฏิบัติตามมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ และการดำเนินงานระหว่างประเทศอื่น ๆ คำแนะนำนี้มีขึ้นเพียง 1 ปีหลังจากอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ สั่งให้ยุติสถานะพิเศษของฮ่องกงภายใต้กฎหมายของสหรัฐฯ เพื่อลงโทษจีน คำแนะนำดังกล่าวยังระบุอีกด้วยว่า ธุรกิจต่าง ๆ ควรพิจารณาถึงความเสี่ยงด้านชื่อเสียง, เศรษฐกิจ และกฎหมายที่อาจเกิดขึ้นจากการรักษาสถานะหรือพนักงานในฮ่องกง และควรดำเนินการตรวจสอบสถานะ นโยบายที่รัฐบาลจีนและรัฐบาลฮ่องกงมีการดำเนินการสภาพแวดล้อมทางกฎหมาย และกฎระเบียบที่สำคัญ คำเตือนนี้มีขึ้นไม่กี่วันหลังจากที่วอชิงตันได้เพิ่มคำเตือนแก่ภาคธุรกิจ เกี่ยวกับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของการมีห่วงโซ่อุปทานและการเชื่อมโยงการลงทุนกับภูมิภาคซินเจียงของจีน โดยอ้างถึงการบังคับใช้แรงงานและการละเมิดสิทธิมนุษยชน ฝ่ายบริหารได้เพิ่มบริษัทจีน 14 แห่งและหน่วยงานอื่น ๆ ไว้ในบัญชีดำทางเศรษฐกิจของบริษัท เนื่องจากถูกกล่าวหาว่าละเมิดสิทธิมนุษยชนและการสอดส่องเทคโนโลยีขั้นสูงในซินเจียง
วอชิงตันกำลังเตรียมที่จะกำหนดมาตรการคว่ำบาตร ต่อเจ้าหน้าที่จีน 7 นายในความพยายามครั้งล่าสุด ที่จะให้รัฐบาลจีนรับผิดชอบต่อสิ่งที่วอชิงตันเรียกว่าการทำลายของหลักนิติธรรมในอดีตอาณานิคมของอังกฤษ ที่กลับสู่การควบคุมของจีนในปี 1997
