สำหรับ ณ จุดนี้ได้เดินทางมาถึงประช่วงไตรมาสที่ 2 แล้ว แต่การให้ความสนใจกับข้อมูล Q1 นั้นไม่ค่อยมากมายสักเท่าไหร่นัก ถึงแม้ว่าญี่ปุ่นจะออกรายงาน GDP ในช่วงเดือนมกราคม – มีนาคมออกมาแล้วก็ตาม พบว่าข้อมูล GDP ของประเทศญี่ปุ่นในเดือนเมษายนนั้น มีการลดลงในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ เท่านั้น แต่อย่างไรก็ตามจากสถานการณ์โดยรวมของโลกพบว่าบรรยากาศในการลงทุนกำลังเปลี่ยนไป
โดยนักลงทุนพบว่าการเปิดตัววัคซีนในหลาย ๆ ประเทศ และหลาย ๆ ยี่ห้อเชื่อว่าจะทำให้เศรษฐกิจหลักในระยะสั้นพุ่งสูงขึ้น แต่อย่างไรก็ตามเพื่ออ้างอิงจากข้อมูลการจ้างงานของสหรัฐพบว่า ถึงแม้ว่าจะมีการฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชนพลเมืองอย่างรวดเร็วและเต็มที่ พบสถานการณ์การฉีดวัคซีนที่ดีขึ้นแล้วก็ตาม แต่ถึงกระนั้นก็ยังคงมีแนวโน้มที่ไม่ราบรื่นเสมอไป เพราะเกิดจากปัญหาการหยุดชะงักของซัพพลายเชน ความต้องการบางอย่างของผู้บริโภคก็ไม่ได้รับการตอบสนอง เช่น มีการขาดแคลนสินค้า, ปัญหาทางด้านรัฐศาสตร์, การโจมตีทางไซเบอร์ ที่มีจุดมุ่งหมายโจมตีท่อส่งน้ำมันเบนซินขนาดใหญ่ที่สุด มีการขึ้นบัญชีดำของ HUAWEI และอื่น ๆ ซึ่งส่งผลทำให้การกระตุ้นเศรษฐกิจนั้นไม่ได้เป็นตามที่หวัง แต่อย่างไรก็ตามไม่ได้มีปัญหาอัตราเงินเฟ้อเพียงแค่ในประเทศสหรัฐอเมริกาเท่านั้น แต่ในเยอรมนีจุดคุ้มทุน 10 ปีล่าสุดมีค่าต่ำกว่า 1.0%
ส่วนสถานการณ์เงินเฟ้อของญี่ปุ่นก่อนหน้านี้มีแววว่าจะเกิดเงินเฟ้อแต่ยังเคราะห์ดีที่จุดคุ้มทุน 10 ปีอยู่ที่ 20 bp กลับคืนสู่เกิดโควิดระบาดก่อนรอบที่ 3 ยังคงพอประคองไปได้อยู่ อย่างไรก็ตามปัญหาในช่วงนี้ที่พบได้มากในหลาย ๆ ประเทศที่ถึงแม้ว่าจะมีการฉีดวัคซีนไปแล้ว ก็คือปัญหาในเรื่องของห่วงโซ่อุปทานและปัญหาคอขวด