มาเลเซียมีกำหนดที่จะยกระดับข้อพิพาททางการค้ากับสหภาพยุโรป รวมทั้งอีก 2 ประเทศสมาชิกสำหรับการจำกัด เชื้อเพลิงชีวภาพที่ใช้น้ำมันปาล์ม มีการยื่นฟ้องของ WTO เกิดก่อนการประชุมของคณะกรรมการยุติข้อพิพาท คนงานเร่งเก็บผลปาล์มน้ำมันในสวนท่ามกลางการระบาดของ COVID-19 ในเมืองกลังประเทศมาเลเซีย
มาเลเซียเดินหน้ายกระดับข้อพิพาททางการค้า เหตุมีการจำกัดเชื้อเพลิงชีวภาพที่ใช้น้ำมันปาล์ม มีการยื่นฟ้องของ WTO ซึ่งการฟ้องนี้เกิดขึ้นก่อนการประชุมของคณะกรรมการยุติข้อพิพาทในวันศุกร์ ทางด้านสหภาพยุโรปกำลังดำเนินการตามคำสั่งด้านพลังงานหมุนเวียนซึ่งเป็นโครงการใหม่ที่กำลังเร่งดำเนินการให้เกิดขึ้น พบผู้ผลิตน้ำมันปาล์ม 2 อันดับแรกของโลกอย่างมาเลเซียและอินโดนีเซีย กำลังต่อสู้อย่างหนักหน่วงกับการเฝ้าระวังการค้าระดับโลก ทั้งนี้แยกกันเป็น 2 กรณี โดยทั้ง 2 ประเทศกล่าวว่ามาตรการของสหภาพยุโรปส่อเค้าทำให้เกิดผลประโยชน์ที่ไม่เป็นธรรม กับผู้ผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพในท้องถิ่นที่ผลิตมาอย่างต่อเนื่อง เช่น น้ำมันเรพซีดและน้ำมันดอกทานตะวัน เป็นต้น โดยคำขอของมาเลเซียสำหรับการจัดตั้งคณะกรรมการ WTO เพื่อตัดสินคดีนี้ มีกำหนดที่จะดำเนินการอย่างเป็นทางการในการประชุมในวันศุกร์นี้
ทางด้านกรุงบรัสเซลส์กล่าวว่าการปลูกปาล์มน้ำมัน จะส่งผลทำให้เกิดการตัดไม้ทำลายป่ามากจนเกินไป อีกทั้งยังไม่ควรนับรวมกับเป้าหมายพลังงานหมุนเวียน ซึ่งหมายความว่าดีเซลที่ใช้น้ำมันปาล์มจะไม่ถือเป็นเชื้อเพลิงชีวภาพ และการใช้เชื้อเพลิงนี้ในการขนส่งจะยุติลงภายในปี 2030 มาเลเซียจะมีการส่งออกน้ำมันปาล์ม 1.94 ล้านตันไปยังสหภาพยุโรปในปี 2020 ทำให้เกิดความไม่พอใจขึ้นมา