ประเทศจีนวางแผนที่จะลดกำลังการผลิตเหล็กจำนวน 236 ล้านตัน เป็นการวางแผนระยะยาว 5 ปี เป้าหมายคือปี 2021 – 2025 โดยสมาคมเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศจีนกล่าวในแถลงการณ์ สำหรับท่อเหล็กที่รอการบรรทุกและขนย้ายไปยังท่าเรือมีให้พบเห็นที่โรงถลุงเหล็กใน Cangzhou
นอกจากนี้ผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่ของโลกยังคงตั้งเป้าที่จะปรับปรุง กำลังการผลิตเหล็ก 221 ล้านตันภายในปี 2025 เพื่อเป็นการผลักดันโครงการโลกสีเขียวสำหรับวงการกลุ่มเหล็ก การดำเนินงานในภาคส่วนเหล็กมีส่วนสำคัญที่ทำให้เกิดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกราวร้อยละ 15 ทั้งหมดในประเทศจีนซึ่งเป็นจำนวนที่เยอะมาก ต่อมาจึงได้มีการให้คำมั่นสัญญาต่อนานาชาติ เรื่องที่จะนำการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ไต่ขึ้นสู่ระดับสูงสุดก่อนปี 2030 ดังนั้นเพื่อทำให้เกิดการปล่อยมลพิษต่ำมากอย่างรวดเร็ว ทำให้ทางการจีนมีการผลักดันโครงการอย่างเต็มที่ ทำให้ทางภาคส่วนเหล็กจำเป็นต้องลงทุนประมาณ 260 พันล้านหยวน (40.8 พันล้านเหรียญสหรัฐ)
จีนได้ลดกำลังการผลิตเหล็กจำนวน 86 ล้านตันในช่วงระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา และมีการปรับเพิ่มขึ้นอีก 80 ล้านตันเพื่อปรับไปตามสถานการณ์ต่าง ๆ นอกจากนี้ผู้จัดการยังมีการกล่าวพร้อมเสริมเพิ่มเติมว่า ทางบริษัทกำลังดำเนินการกำลังการผลิตเหล็กดิบอยู่ที่ประมาณ 620 ล้านตันซึ่งเป็นรุ่นที่รอการผลิตมานานแล้ว หลังจากที่มีการผลิตชุดนี้เสร็จสิ้น ก็จะมีการอัปเกรดการผลิตที่ปล่อยมลพิษต่ำเป็นพิเศษภายในสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2022 ทันทีดังที่ได้ให้คำมั่นไว้กับนานาชาติ
(1 เหรียญสหรัฐ = 6.3754 หยวนจีน)
