กลุ่ม G7 พยายามที่จะรวม Amazon ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในโลก ไว้ในรายชื่อบริษัท 100 แห่งที่ต้องพบกับภาษีที่สูงขึ้นในประเทศที่พวกเขาทำธุรกิจด้วย เพราะบางประเทศในยุโรปมีความกังวลว่า Amazon อาจอยู่นอกขอบเขตของกฎใหม่นี้ เพราะอัตรากำไรจากการดำเนินงานโดยรวมของบริษัท Amazon นั้นน้อยกว่าร้อยละ 10 ซึ่งเป็นเกณฑ์ที่กำหนดเป็นเกณฑ์สำหรับบริษัทที่อยู่ในรายชื่อ 100 แห่ง
แต่อย่างไรก็ตามเนื่องจากธุรกิจ Amazon Web Services (AWS) ของบริษัทแห่งนี้ มีอัตรากำไรขั้นต้นมากกว่าร้อยละ 30 จึงสามารถรวบรวม Amazon เข้ามารวมได้ การเจรจาระหว่างประเทศที่เกี่ยวกับภาษีนิติบุคคลขั้นต่ำระดับโลก ที่ตกลงโดยกลุ่มประเทศ G7 ได้ดำเนินไปควบคู่ไปกับการเจรจาเรื่องการแบ่งในการเสียภาษีกำไรส่วนเกิน โดยถือได้ว่าเป็นมิติใหม่ของโลก 100 บริษัทที่ใหญ่ที่สุดและทำกำไรได้มากที่สุดที่จะต้องมีการปรับตัว รัฐมนตรีการคลังของ G7 เห็นพ้องต้องกันว่ารัฐบาลกลางควรได้รับสิทธิ์ ในการจัดเก็บภาษีอย่างน้อย 20 เปอร์เซ็นต์ของกำไรที่บริษัทข้ามชาติได้รับในประเทศของตนเอง เมื่อกำไรนี้มากกว่าส่วนต่าง 10 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งมีการตัดสินใจว่าหากองค์กรโดยรวมไม่ถึงขีดจำกัดในการทำกำไร แต่การแบ่งขนาดใหญ่ที่เกินกว่าเกณฑ์ G7 ก็จะต้องรวมไว้ด้วย ดังนั้นนอกจากบริษัทอื่น ๆ ที่ได้กล่าวมาก่อนหน้านี้จึงได้มุ่งเป้าไปที่ Amazon เพิ่ม ทางด้าน Amazon ไม่ตอบสนองต่อการร้องขอความคิดเห็นครั้งนี้ในทันที
แหล่งข่าวของรัฐบาลอังกฤษที่คุ้นเคยกับการเจรจา มีการวิเคราะห์ว่าที่มีการรวม Amazon เข้ามาภายหลังเป็นเพราะว่า มีการพิจารณาถึงกฎเกณฑ์ที่จะนำไปใช้กับบริษัทที่มีกิจกรรมและสายธุรกิจต่างกัน ดังนั้นจึงเพิ่มมาภายหลังนั่นเอง