ดอลลาร์แข็งแกร่งกว่ายูโรและสเตอร์ลิงดิป

หลังจากที่ธนาคารกลางยุโรปแสดงท่าทีที่ผ่อนคลาย พบว่าจำเป็นต้องมีกฎการคลังที่ยืดหยุ่นเป็นเวลานานหลายปี เนื่องจากนโยบายการเงินยังคงมีข้อจำกัด โดยผู้กำหนดนโยบายของ ECB พบว่าอัตราเงินเฟ้ออยู่ต่ำกว่าระดับที่จำเป็นต่อการเพิ่มแรงกดดันต่ออัตราดอกเบี้ย ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการตัดขาดจากการชุมนุมของเงินยูโร ส่งผลทำให้เกิดแรงกดดันด้านลบ กลายมาเป็นปัจจัยสนับสนุนที่ใหญ่ที่สุดในการเคลื่อนไหวในชั่วข้ามคืนเท่านั้น

ทางด้านค่าเงินปอนด์ลดร่วงลง 0.54% ที่ 1.4098 ดอลลาร์ เพราะนักลงทุนมีความกังวลเกี่ยวกับการเติบโตที่ช้ากว่าที่คาด เพราะการติดเชื้ออย่างรวดเร็วของตัวแปรเดลต้าในสหราชอาณาจักร ส่งผลทำให้เกิดความกังวลว่าประเทศส่วนใหญ่ไม่อาจเปิดใหม่ได้อย่างเต็มที่ พบว่าตลาดสกุลเงินมีทีท่าซบเซาตลอดทั้งสัปดาห์ โดยคาดการณ์ว่าจะมีการเปิดเผยราคาผู้บริโภคสหรัฐซึ่งเพิ่มขึ้นกลายเป็น 5% เมื่อเทียบเป็นรายปีในเดือนพฤษภาคม ถึงแม้จะมีตัวเลขที่เหนือความคาดหมายก็ตาม แต่กลับพบปฏิกิริยาของตลาดเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่ทางด้านนักลงทุนจะสนับสนุนการยืนยันของ Federal Reserve ว่าอัตราเงินเฟ้อที่สูงนั้นจะเกิดขึ้นแบบชั่วคราว นักเศรษฐศาสตร์วิเคราะห์ว่าธนาคารกลางจะประกาศในเดือนสิงหาคมหรือกันยายนมาจากโครงการซื้อพันธบัตรจำนวนมาก แต่อย่าคาดหวังว่าธนาคารจะเริ่มลดการซื้อรายเดือนจนถึงต้นปี 2022 นอกจากนี้ Greg Anderson หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์การแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศระดับโลก ที่ BMO Capital Markets พบว่าผู้ค้ายังคงเตรียมความพร้อมสำหรับความผันผวน ของการประชุมคณะกรรมการตลาดกลางแห่งสหพันธรัฐ ซึ่งได้กำหนดไว้สำหรับสัปดาห์หน้า

ถ้านักลงทุนเริ่มต้นจากตำแหน่งที่มีสกุลเงินดอลลาร์ชอร์ตอยู่แล้ว อันเนื่องจากการประชุม FOMC มักจะมีความผันผวนมาก นักลงทุนอาจลดค่าชอร์ตลงเพื่อวัตถุประสงค์ในการบริหารความเสี่ยง