ราคาน้ำมันมีผลกระทบต่อการซื้อรถยนต์ใหม่ และการประหยัดเชื้อเพลิงในสหรัฐอเมริกา โดยทั่วไปช่วงเวลาที่ราคาน้ำมันสูงขึ้นส่งผลให้ผู้บริโภคเลือกซื้อรถยนต์และรถบรรทุกที่มีขนาดเล็กกว่า, เบากว่า และประหยัดน้ำมันมากขึ้น ซึ่งลดการเติบโตของการใช้น้ำมันมากขึ้น
อย่างไรก็ตามในทางตรงกันข้าม ช่วงเวลาที่ราคาตกส่งผลทำให้ผู้บริโภคเลือกใช้รถยนต์ที่มีขนาดใหญ่กว่า, หนักกว่า, ทรงพลังกว่า และประหยัดน้ำมันน้อยกว่า ซึ่งทำให้การบริโภคน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับแนวโน้มก่อนหน้า ผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงราคามีต่อการใช้เชื้อเพลิงอย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งมักเกิดขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงหลายอย่างในวัฏจักรเศรษฐกิจ ซึ่งทำให้การระบุการคาดการณ์ต่าง ๆ ล้วนเป็นเรื่องยาก อย่างไรก็ตามในอนาคตราคาที่สูงขึ้นอาจส่งผลกระทบที่ใหญ่กว่าและเร็วกว่ามากต่อการใช้น้ำมันเบนซิน เนื่องจากจะมีการเปลี่ยนเป็นรถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบและไฮบริดได้กลายเป็นทางเลือกที่เหมาะสมสำหรับรถยนต์ที่ใช้น้ำมันเบนซินและรถบรรทุกขนาดเล็ก หน่วยงานคุ้มครองสิ่งแวดล้อมแห่งสหรัฐฯ (EPA) ออกมาแสดงรายงานของสำนักงานคุ้มครองสิ่งแวดล้อมแห่งสหรัฐฯ (EPA) โดยระบุว่า ยานพาหนะเบนซิน-ไฮบริด ไฟฟ้าเต็มรูปแบบ รวมทั้งยานยนต์ทางเลือกอื่น ๆ คิดเป็น 11% ของรถยนต์ใหม่ทั้งหมดที่ผลิตในปี 2020 จากราคาที่สูงขึ้นมีแนวโน้มที่จะเร่งการนำรถยนต์ไฮบริด และรถยนต์ไฟฟ้ามาใช้ เนื่องจากผู้บริโภคพยายามลดค่าเชื้อเพลิงและหน่วยงานกำกับดูแล พร้อมทั้งผลักดันให้มีการเปลี่ยนจากระบบส่งกำลังที่ใช้น้ำมันเบนซินให้เร็วขึ้น
ถ้าราคาน้ำมันพุ่งขึ้นอีกครั้งดังเช่นระหว่างปี 2005 และ 2014 ผลที่ได้คือการสูญเสียการบริโภคในสหรัฐอเมริกาอย่างรวดเร็วและถาวร