กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ จะมีการปรับลดอันดับประเทศมาเลเซีย ให้อยู่ในอันดับที่แย่ที่สุดในรายงานประจำปีที่เกี่ยวกับการค้ามนุษย์ซึ่งมีการจับตาดูอย่างใกล้ชิด สำหรับการปรับลดนี้เกิดขึ้นหลังจากพบการร้องเรียนจำนวนมากจากกลุ่มสิทธิมนุษยชนและทางการสหรัฐฯ พบการแสวงประโยชน์จากแรงงานข้ามชาติในพื้นที่เพาะปลูกและโรงงาน
กระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ มีการจัดอันดับประเทศต่าง ๆ ในเรื่องของการไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานขั้นต่ำในการกำจัดการค้ามนุษย์ ซึ่งการจัดอันดับ Tier 3 อาจส่งผลต่อการเข้าถึงความช่วยเหลือจากสหรัฐฯ ของมาเลเซีย ทางด้านสถานทูตสหรัฐฯ ในกรุงกัวลาลัมเปอร์ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นก่อนการเปิดตัวรายงานที่แสดงให้เห็นถึงข้อมูลที่ได้รวบรวมมา ประเทศมาเลเซียพบแรงงานต่างชาติเกือบ 2 ล้านคน และพบว่ายังมีอีกหลายล้านคนที่ไม่มีเอกสารการทำงาน
นอกจากนี้ยังเป็นที่อยู่อาศัยของผู้ลี้ภัย และผู้ขอลี้ภัยที่ลงทะเบียนมากกว่า 170,000 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวโรฮิงญาจากเมียนมาร์ ตามปกติแรงงานข้ามชาติที่จะเดินทางไปมาเลเซีย จะมาพร้อมกับการจ่ายค่าธรรมเนียมสูงให้กับตัวแทนจัดหางานในประเทศบ้านเกิด ซึ่งนักเคลื่อนไหวกล่าวว่าสิ่งนี้นำไปสู่การเป็นหนี้ องค์กรอาชญากรรมขนาดใหญ่มีหน้าที่รับผิดชอบต่อการค้ามนุษย์ในมาเลเซีย
ในปี 2020 สหรัฐฯ ได้สั่งห้ามนำเข้าสินค้าจากบริษัทมาเลเซีย 3 แห่ง พร้อมทั้งกล่าวหาว่ามีการบังคับใช้แรงงานในการดำเนินงาน ซึ่งรวมถึงผู้ผลิตถุงมือชั้นนำของโลกและผู้ผลิตน้ำมันปาล์ม 2 ราย Top Glove ผู้ผลิตถุงมือออกมากล่าวเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมาว่า ได้แก้ไขการบังคับใช้แรงงานที่พบในโรงงานทั้งหมดแล้ว